หนังดีติดดาว

หนังดีติดดาว

            มงคลเมเจอร์ ต้อนรับฮาโลวีนด้วยภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง“Impetigore” เป็นหนังสยองขวัญสัญชาติอินโดนีเซียน อำนวยการสร้าง จอห์น เพนอตติ (The Wailing, Crazy Rich Asian, Hell on Highwater) กำกับ-เขียนบทโดยผู้กำกับสายหลอน โจโก้ อันวา  (Satan’s Slaves, A Copy of My Mind1, Ritual) นำแสดงโดย ทาร่า บาสโร (Gundala, Killer), มาริสซ่า อานิต้า (Gundala) ว่าถึงเรื่องราวของ มายา และ ดีนี่ สองเพื่อนสาวสุดซี้ ที่ต้องพยายามเอาตัวรอดจากผู้คนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เมื่อ มายา คิดว่าเธอจะได้รับมรดกจากครอบครัวที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เธอจึงเดินทางกลับมายังบ้านเกิดพร้อม ดีนี่ โดยที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า มีอันตรายกำลังรอพวกเธออยู่ที่นั่น

              โดยหนังเปิดเรื่องมาอย่างน่าสนใจได้รู้จักตัวละครหลัก 2 ตัวคือ มายา และเพื่อนของเธอ ดีนี่ ที่หนังใช้เดินเรื่องราว ปมที่ผูกไว้ก็จะค่อย ๆ มีความลึกลับซับซ้อนมากขึ้นไปอีกเมื่อเรื่องราวขยับเดินหน้าไป ชอบบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจในหมู่บ้านเมื่อตัวละครหลัก 2 ตัว เดินทางไปถึง ทุกอย่างดูอึมครึมและลึกลับ ผู้คนที่ดูเหมือนจะไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้านของตน ปมปริศนาก็ถูกยกระดับขึ้นไปอีกเมื่อตัวละครรองมีส่วนเกี่ยวข้องกับพล็อตเรื่อง ยิ่งเร่งความอยากรู้อยากเห็นในตัวให้มากขึ้นว่าทั้งหมดมันคืออะไร? ยังไง? แต่พอถึงช่วงหลังเป็นการคลายปมกลับกลายเป็นว่ามันไม่พีคเลย และไม่เสียวไส้ ไม่ตื่นเต้น ไม่ลุ้นระทึกเหมือนตอนขาขึ้นมาเลย เพราะการเฉลยปมรู้สึกมันไม่ลื่นไหล แถมยังเยิ่นเย้อจนน่ารำคาญ เพราะขาดชั้นเชิงในการเล่าไปเสียเฉย ๆ ราวกับว่าคนเขียนบทตอนต้นกับตอนท้ายเป็นคนละคนกัน เลย

ติดให้ **

              เมื่อโคตรโจรวางมือ แต่เจอตำรวจสันดานโจรหักหลัง เลยต้องงัดไม้เด็ดกระแทกสังคม ใน Honest Thief ทรชนปล้นชั่ว” หากให้พูดถึงหนังแอ็คชั่นล้างแค้นแบบโคตรคลั่ง คงมีหลายคนที่นึกถึงความบู๊แหลกของนักแสดงรุ่นเก๋าขาบู๊ “เลียม นีสัน” อย่างแน่นอน และในผลงานล่าสุดของเขานี้ เรียกว่าเดือดจัด กระแทกหน้าสังคมเต็ม ๆ เพราะนี่ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นแก้แค้นเอาคืนธรรมดา แต่เป็นเรื่องราวของ “ทอม คาร์เตอร์” (รับบทโดย เลียม นีสัน) โคตรโจรฝีมือพระกาฬ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยระเบิดกองทัพเรือ ที่บุกปล้นมาแล้วกว่า12 ธนาคาร จาก 7 รัฐ แต่ไม่มีใครจับเขาได้แม้แต่เงา แต่วันหนึ่ง เมื่อผู้หญิงที่เขารักเดินเข้ามาในชีวิต ทอมจึงตัดสินใจวางมือจากโลกอาชญากร และติดต่อมอบตัวคืนเงินกองกลางเพื่อหวังจะได้รับการลดโทษ แต่การกลับใจเป็นคนดีมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อ 2 เอฟบีไอหนุ่มที่เข้ามาเคลียร์คดีนี้กลับเผยสันดานโจรฮุบเงินกองกลางซะเอง! แถมยังป้ายความผิดให้เขาอย่างหน้าด้าน ๆ

              หนังปูเรื่องราวได้ดี ทำให้เข้าถึงอารมณ์ของทุกตัวแสดง พระเอกเล่นได้ดีมาก อบอุ่น แข็งแกร่ง ไม่เว่อร์จนเกินไป ตัวละครอื่น ๆ ก็เล่นได้ดีทุกคน บทภาพยนตร์ทำออกมาได้ดีมาก ตั้งแต่ต้นจนจบ เข้าใจง่ายในความซับซ้อน ให้แง่คิดได้ดี เรื่องการกลับตัวเป็นคนดียังไม่สายแต่ก็มีมารมาผจรซะนี่ ส่วนฉากทำออกมาได้ตามมาตรฐานแต่ฉากบู๊ไม่มากเท่าไหร่หรือเพราะวัยของเฮียเลียมหรือเปล่า

ติดให้ *** ครึ่ง

              เฉลยคำถามภาพยนตร์เรื่อง“Antebellum” : จาแนลล์ โมเน่

              เฉลยคำถามภาพยนตร์เรื่อง“Mother Gamer” : โอม

              คำถามภาพยนตร์เรื่อง“Honest Thief” ทอม คาร์เตอร์มีอาชีพอะไร

              ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

หนังดีติดดาว

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 5 ท่าน ได้รับของรางวัลจาก มงคลเมเจอร์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

              บริษัท ทรานฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด และ แมงโก้ มีเดีย ร่วมกันสร้างเสียงหัวเราะกับภาพยนตร์ “เฮ้ย! ลูกพี่ นี่ลูกพ่อ” คว้า 2 พระเอกสุดฮอตโคจรมาเจอกันอย่าง “โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” รับบท ลูกพ่อ ที่ชะตาพาเล่นตลกให้ย้อนอดีตไปเจอกับพ่อตัวเองสมัยยังเฟี้ยวฟ้าว “เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” รับบท ลูกเพ่ โดยผู้กำกับบุพเพสันนิวาส “ใหม่-ภวัต พนังคศิริ” ว่าด้วยเรื่องของ ก็อต หนุ่มนักแข่งรถไฟแรงที่ไม่ค่อยลงรอยกับพ่อของตัวเองสักเท่าไหร่นัก จนมาถึงวันที่เขาได้แชมป์แข่งรถแล้วมีเหตุการณ์ทำให้ตัวเขานั้นย้อนเวลากลับไปในปี 2541 อันเป็น 1 ปีก่อนที่เขาจะเกิด เขาได้มาพบกับ เปรม พ่อของตัวเองที่ยังเป็นหนุ่มและเป็นหัวหน้าแก๊งค์ที่คอยเก็บค่าคุ้มครองร้านค้าและร้านคาราโอเกะ จาก ลูกพ่อ ก็เลยมาเป็น ลูกเพ่ แถมดันมาปิ๊ง บิว แฟนสาวของพ่อเข้าอีก งานนี้ต้องไปดูกันว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 3 จะออกมาแบบไหน?

              ผู้กำกับเล่าเรื่องเหมือนมีเวลา 2-3 เดือน อย่างกับละครที่ตัวเองเคยทำ บทหนังมีปัญหาเรื่องความต่อเนื่องของเรื่องราว หลายครั้งรู้สึกเหมือนเอาซีนที่ไม่ได้ต่อเนื่องกันมาเรียงกัน อารมณ์สะดุดบ่อยมาก บทบาทของตัวละครหลักดูทีเล่นทีจริงจนไม่น่าเชื่อถือ ขาดความต่อเนื่องในเส้นเรื่องของตัวละครรอง แถมยังเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป มุกตลกและฉากแอ็คชั่นมีจริตของความเป็นละครหลังข่าวสูงมาก การแสดงที่ดูทีเล่นทีจริงของ โป๊ป ธนวรรธน์ สร้างปัญหาความน่าเชื่อถือให้กับเรื่องราว เต๋อ ฉันทวิชช์ ที่ผ่านหนังมาหลายเรื่องก็แบกและเอาเรื่องนี้ไม่อยู่เหมือนกัน ถึงจะมีบาดแผลฉกรรจ์แต่เวลาดูแล้ว เออ…ดูเพลิน ๆ ดี ถึงจะมีจังหวะอืด ๆ หน่วง ๆ ช่วงกลางเรื่องบ้าง และเวลาตลกมันก็พอได้ขำ แต่เวลาซึ้ง ๆ เศร้า ๆ นี่อารมณ์ร่วมมันไปไม่ถึง แต่หนังสอนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกในประเด็นเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเรานั่นเอง

ติดให้ * ครึ่ง

              คำถามภาพยนตร์“เฮ้ย! ลูกพี่ นี่ลูกพ่อ” 2 พระเอกที่โคจรมาเจอกันคือใคร?

ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

หนังดีติดดาว

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 5 ท่าน ได้รับของรางวัลจาก ทรานฟอร์เมชั่น ฟิล์ม และ แมงโก้ มีเดีย  (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

มงคลเมเจอร์ ส่งภาพยนตร์เขย่าขวัญ “The Secrets We Keep” ผลงานกำกับของ ยูวัล แอดเลอร์ ร่วมเขียนบทกับ ไรอัน โควิงตัน นำแสดงโดย นูมิ ราเพซ (What to happened  to Monday), โจเอล คินเนอร์แมน (Suicide Squad, Robocop), คริส เมสซินา (Argo, Devil)  อำนวยการสร้าง ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา (The Meg, American Assassin), สจ๊วต ฟอร์ด (Dredd, Dead Man Down)  The Secrets We Keep ภาพยนตร์ระทึกขวัญพล็อตล้ำแห่งปี 2020 ในอเมริกายุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มายา (ราเพซ) เหยื่อสงครามชาวโรมานีอพยพจากยุโรปมาเริ่มชีวิตใหม่กับสามีชาวอเมริกันของเธอในหมู่บ้านย่านชานเมือง แต่กลับพบว่าคนแปลกหน้าแถวบ้าน (คินเนอร์แมน) ของพวกเขาอาจจะเป็นอดีตทหารนาซีที่เคยจับเธอไปทรมานช่วงสงครามโลก มายาจึงวางแผนลักพาตัวเพื่อนบ้านหน้าใหม่มาเอาคืนให้สาสม แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนเพราะเธอไม่มีหลักฐานหมัดตัว เธอจึงต้องปลุกด้านมืดของเธอออกมาเพื่อคาดคั้นความจริงจากปากชายโชคร้ายคนนี้

              หนังเปิดเรื่องมาก็ใส่เกียร์เดินหน้าทันทีเลย แต่จังหวะการเล่าเรื่องจะผ่อนความเร็วลงจนรู้สึกเนือย ๆ และน่าเบื่ออยู่นิด ๆ เมื่อได้รู้จักตัวละครหลักทั้ง 3 ตัว และ 3 มุมมองที่ใช้เป็นตัวเดินเรื่องที่แท้จริง เพราะแต่ละตัวก็มีมุมมองที่ต่างกัน ภาพที่ออกมาก็เลยทำให้เราในฐานะคนดูต้องคอยลุ้นไปพร้อม ๆ กับเกิดปมและคำถามในใจตลอดเวลาว่า ใครผิดใครถูก แล้วเราควรจะเห็นด้วยหรือคัดค้านกับการกระทำของตัวละครแต่ละตัวดี และชอบโปรดักชันถึงจะไม่ได้เห็นอะไรมากเท่าไร แต่รู้สึกได้ถึงความใส่ใจในการออกแบบที่ดูแล้วได้บรรยากาศอเมริกาในปลายยุค 1950’s ดีมาก ๆ ถ้าหากมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวก็จะทำให้ดูสนุกและเข้าใจในการใช้สัญลักษณ์บางอย่างและบทพูดที่อ้างอิงถึงเหตุการณ์อันโหดร้ายในครั้งนั้น

ติดให้ ** ครึ่ง

Related posts